การเลือกซื้อตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิศ
การนำตู้คอนเทนเนอร์ (Container Box) มาดัดแปลงเพื่อการใช้งานในรูปแบบที่หลากหลายขึ้น กลายเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ตู้คอนเทนเนอร์มือสองสามารถเนรมิตให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยอย่าง บ้านตู้คอนเทนเนอร์ บ้านพักตากอากาศ รวมถึงสามารถดัดแปลงให้เป็นร้านค้าและสำนักงานได้ ด้วยขนาดและคุณสมบัติของตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความแข็งแรงทนทาน วางซ้อนกันได้หลายชั้น สามารถขนย้ายได้สะดวก และมีต้นทุนต่ำกว่าค่าวัสดุก่อสร้าง เหมาะกับสำนักงานที่มีระยะเวลาและงบก่อสร้างจำกัด สำนักงานที่มีโอกาสย้ายที่ทำงานในอนาคต และสำนักงานที่ต้องการพื้นที่ทำงานเป็นระเบียบมิดชิด เพราะสามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับการทำงานภายในอาคารทั่วไปเลย
ตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิศ เป็นหนึ่งในทางเลือกของสำนักงานชนิดสำเร็จรูปที่ช่วยประหยัดเงินและเวลาในการก่อสร้าง เพราะสามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับการทำงานภายในอาคารทั่วไป สามารถติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และอุปกรณ์การทำงานอย่างโต๊ะ เก้าอี้ คอมพิวเตอร์ และวงจรไฟฟ้า ได้อย่างครบครัน โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการเริ่มลงฐานก่อสร้างเหมือนการปลูกสร้างอาคาร สำหรับธุรกิจหรือสำนักงานใดที่กำลังสนใจการใช้งานตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิศ ลองมาทำความรู้จักกับคุณสมบัติและการใช้งานตู้ออฟฟิศกันก่อนดีกว่า
ตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิศ
คืออะไร?

ตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิศ หรือตู้สำนักงาน คือสำนักงานสำเร็จรูปที่ดัดแปลงมาจากตู้คอนเทนเนอร์มือสอง ซึ่งนำมาตัด เจาะ ทำสี บุฉนวนกันความร้อน ทำพื้น ติดประตูและหน้าต่าง ให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับทำงาน โดยภายในมีการติดตั้งระบบอำนวยความสะดวก ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา เหมือนอาคารสำนักงานทั่วไป ทั้งนี้ ในท้องตลาดมีตู้สำนักงานสำเร็จรูปที่นิยมใช้กันอยู่ 2 ประเภท คือตู้คอนเทนเนอร์สำนักงาน และตู้สำนักงาน ISOWALL ซึ่งตู้ ISOWALL จะผลิตจากผนังสำเร็จรูป ISOWALL นำมาประกอบเข้ากับโครงสร้างเหล็ก ทำให้คุณสมบัติหลายอย่างแตกต่างจากตู้คอนเทนเนอร์ การเลือกใช้งานก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานและลักษณะของกิจการ
คุณสมบัติของออฟฟิศจากตู้คอนเทนเนอร์
โครงสร้างหลักของออฟฟิศจะทำจากตู้คอนเทนเนอร์ทั้งใบ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยตามขนาดของตู้คอนเทนเนอร์ โดยตู้คอนเทนเนอร์ที่นิยมนำมาใช้งานจะมีอยู่ 3 ขนาด คือ
1.ขนาด 20 ฟุต (ยาว 6 เมตร กว้าง 2.5 เมตร สูง 2.5 เมตร)
2.ขนาด 40 ฟุต (ยาว 12 เมตร กว้าง 2.5 เมตร สูง 2.5 เมตร)
3.ขนาด 40’HC (ยาว 12 เมตร กว้าง 2.5 เมตร สูง 2.8 เมตร)
ซึ่งตู้คอนเทนเนอร์นั้นทำมาจากเหล็กที่แข็งแรง มีความทนทาน ถูกออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักได้มากถึง 1,000 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ผนังตู้ยังออกแบบให้เป็นลอน เพื่อให้สามารถวางตู้ซ้อนกันได้หลายๆ ตู้โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างแข็งอื่นมาช่วยพยุง
ดังนั้น ตู้ออฟฟิศจึงมีความแข็งแรงทนทาน สามารถดัดแปลงให้เป็นสำนักงานหลายชั้นได้อย่างปลอดภัย และยังสามารถออกแบบรูปลักษณ์ของสำนักงานได้ตามต้องการ เพราะตู้คอนเทนเนอร์สามารถนำมาตัดแต่ง ดัดแปลงให้สอดคล้องกับการใช้งาน
ข้อดีของ

- มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถวางตู้ซ้อนกันได้สูงถึง 7 เมตร โดยไม่ต้องมีโครงสร้างเหล็กอื่นมาช่วยพยุง ลดค่าซ่อมบำรุงในอนาคต
- สามารถเคลื่อนย้าย หรือแก้ไขต่อเติมสำนักงานได้สะดวก
- สามารถออกแบบได้เองตั้งแต่โครงสร้างไปจนถึงการเดินระบบต่างๆ ภายในสำนักงาน โดยที่การใช้งานไม่แตกต่างจากอาคารสำนักงานทั่วไป
- ตู้คอนเทนเนอร์มือสอง มีราคาถูกกว่าวัสดุสำหรับก่อสร้างอาคาร ช่วยประหยัดต้นทุนในการก่อสร้าง
- ใช้เวลาก่อสร้างน้อย ช่วยประหยัดงบส่วนค่าจ้างแรงงาน
เกณฑ์การเลือกซื้อ

- ลักษณะการทำงาน
หัวใจสำคัญคือสถานที่ต้องรองรับการทำงาน ตู้ออฟฟิศเหมาะกับงานที่ต้อจัดสรรพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอย่างเป็นระบบ หรืองานที่ต้องทำในระบบปิดอย่างมิดชิด เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์มีรูปร่างและขนาดตามมาตรฐาน อาจไม่เหมาะกับการทำงานที่ต้องการพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ - ระยะเวลาและงบประมาณ
ตู้สำนักงาน มีต้นทุนต่ำกว่าอาคารสำนักงาน ใช้เวลาในการก่อสร้างน้อยกว่า เพราะสามารถลงมือก่อสร้างดัดแปลงตู้คอนเทนเนอร์ไปพร้อมๆ กับการเตรียมฐานรากสำหรับวางตู้ได้ ไม่จำเป็นต้องวางเสาเข็ม ช่วยประหยัดงบประมาณเริ่มต้นได้มาก จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการงานด่วน หรือผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

- แผนการใช้งานในอนาคต
เนื่องจากเป็นโครงสร้างที่ไม่ได้มีการลงเสาเข็ม ตู้ออฟฟิศจึงสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย รวมถึงสามารถแก้ไขต่อเติมได้สะดวกทั้งภายในและภายนอก โดยจะใช้รถยกและรถบรรทุกสำหรับขนย้าย ตู้ออฟฟิศจึงเหมาะอย่างยิ่งกับกิจการที่ต้องย้ายสถานที่ทำงานบ่อยๆ หรือมีแผนจะย้ายสถานที่ทำงานในอนาคต เพราะการลงทุนซื้อตู้ออฟฟิศประหยัดเงินกว่าการสร้างอาคารใหม่อย่างแน่นอน ทั้งนี้ การขนย้ายตู้ออฟฟิศจะต้องติดต่อกับผู้ให้บริการโดยตรง - บรรยากาศการทำงาน
แม้จะเป็นการดัดแปลงตู้คอนเทนเนอร์มือสอง มาใช้สอย ทำให้รูปลักษณ์ของตัวสำนักงานไม่สามารถดีไซน์ได้หลากหลายมากนัก แต่การตัดแต่งและต่อเติมทั้งภายนอกและภายในก็เป็นส่วนสำคัญที่จะเนรมิตบรรยากาศการทำงานให้ตรงใจผู้ใช้งาน ส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นจากการเลือกขนาดของตู้คอนเทนเนอร์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการใช้สอย และจัดวางองค์ประกอบอื่นๆ ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเดินระบบน้ำประปา ระบบไฟฟ้า การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ การเลือกใช้วัสดุตกแต่งอย่างประตู หน้าต่าง หรือแม้แต่การทาสีและปูพื้น องค์ประกอบเหล่านี้สามารถดีไซน์เองได้ก่อนการก่อสร้าง ซึ่งการต่อเติมส่วนต่างๆ ก็จะต้องพุดคุยปรึกษากับบริษัทที่ให้บริการเช่นกัน
ตู้คอนเทนเนอร์
สำนักงาน 20 ฟุต